ประวัติ ของ ออร์แลนโด บลูม

บลูมเกิดในแคนเทอร์เบอรี ประเทศอังกฤษ และเมื่ออายุได้ 16 ปี ได้ย้ายมายังกรุงลอนดอน เติบโตโดยการเลี้ยงดูของซอนยา แม่ซึ่งสนับสนุนให้เข้าร่วมกิจกรรมละครโรงเรียน การอ่านบทกวี ร้อยแก้วร้อยกรองในเทศกาลแคนเทอร์เบอรี เขาได้ร่วมแสดงใน National Youth Theatre เป็นเวลา 2 ซีซัน และหลังจากนั้นก็ได้รับทุนอบรมใน British American Drama Academy ในตอนที่เขาเรียนจบ บลูมได้แสดงบทนำในเรื่อง A Walk in the Vienna Woods และต่อมาในปี 1998 เขามีชื่อเสียงเป็นครั้งแรกในภาพยนตร์ เรื่อง Wilde เค้าโครงเรื่องจากสร้างมาจากชีวประวัติของออสการ์ ไวลด์

หลังจากนั้นเขาได้เข้าเรียนการแสดงที่ Guildhall School of Music and Drama ในลอนดอน[2] และเขาเลือกที่จะพักอาชีพไว้ก่อนในโอกาสที่จะได้เรียนต่อ ช่วงเวลาที่อยู่ Guildhall บลูมได้แสดงในงานสร้างต่าง ๆ ได้แก่ เรื่อง Little Me, A Month in the City, Peer Gynt, Mephisto และ Twelfth Night หลังจากจบจาก Guildhall บลูมได้แสดงในซีรีส์โทรทัศน์ทางบีบีซี เรื่อง Midsomer Murders

จนกระทั่งมีชื่อเสียงทางด้านการแสดงจากบทบาท ‘เลโกลัส’ ในภาพยนตร์ของปีเตอร์ แจ็กสัน เรื่อง เดอะลอร์ดออฟเดอะริงส์ ทั้งสามภาค[3]

ในเดอะลอร์ดออฟเดอะริงส์ บลูมได้ใช้เวลาไปกับการฝึกศิลปะการป้องกันตัว, มวย, ทักษะการขี่ม้า, ฟันดาบ และยิงธนูสำหรับการรับบทเป็น "เลโกลัส" ดังนั้นบลูมจึงสามารถลงแสดงฉากต่อสู้เองได้โดยไม่ต้องใช้สตั๊นแมน ซึ่งสำหรับเขาแล้วเป็นเรื่องมหัศจรรย์มาก เนื่องจากไม่กี่เดือนก่อนเขาประสบอุบัติเหตุพลัดตกจากหน้าต่างชั้นสามและกระดูกสันหลังหัก เข้ารับการผ่าตัดท่ามกลางความเสี่ยงว่าเขาอาจจะเดินไม่ได้ไปตลอดชีวิต แต่กระนั้นบลูมก็สามารถกลับมาเป็นปกติได้ภายในเวลาอันรวดเร็ว

บลูมได้แสดงคู่กับจอห์นนี เดปป์ ในภาพยนตร์ของเจอร์รี บรักไฮเมอร์ ที่ประสบความสำเร็จอย่างมากมายในเรื่อง ไพเรทส์ออฟเดอะแคริบเบียน กำกับการแสดงโดยกอร์ เวอร์บินสกี ในปี 2003 บลูมมีผลงานให้ชมกันต่อในภาพยนตร์ของเกรเกอร์ จอร์แดน เรื่อง เน็ด เคลลี แสดงคู่กับ ฮีธ เลดเจอร์ และในเรื่อง The Calcium Kid และในปี 2004 รับบทเป็นเจ้าชาย Paris จากภาพยนตร์เรื่อง Troy แสดงร่วมกับแบรด พิตต์

เขาร่วมแสดงในภาพยนตร์อิสระของแฟรงก์ ฟลาวเวอร์ เรื่อง Haven และแสดงในภาพยนตร์ของริดลีย์ สกอตต์ เรื่อง Kingdom of Heaven และเมื่อไม่กี่ปีก่อนหน้านั้นเขาได้แสดงในภาพยนตร์ที่ได้รับรางวัลของริดลีย์ สกอตต์ เรื่อง Black Hawk Down

บลูมได้รับบทเป็น "เลโกลัส" อีกครั้งใน เดอะ ฮอบบิท: ดินแดนเปลี่ยวร้างของสม็อค และ เดอะ ฮอบบิท: สงคราม 5 ทัพ[4] ร่วมกับปีเตอร์ แจ็คสัน ผู้กำกับมือฉกาจอดีตไดเร็คเตอร์ของเดอะลอร์ดออฟเดอะริงส์ ซึ่งเป็นภาคก่อนที่ เดอะลอร์ดออฟเดอะริงส์ อภินิหารแหวนครองพิภพ จะเริ่ม

ในชีวิตส่วนตัวของบลูม เขานับถือศาสนาพุทธนิกายมหายาน โดยเป็นสมาชิกของสมาคมสร้างคุณค่าสากล บลูมเคยพบปะสนทนากับไดซะกุ อิเกะดะ ประธานสมาคมสร้างคุณค่าสากลมาแล้ว[5][6]

บลูมมีความสัมพันธ์แบบไม่มั่นคง[7] กับนักแสดงชาวอเมริกัน เคต บอสเวิร์ท ตั้งแต่ปี 2003 จนสิ้นสุดความสัมพันธ์ในเดือนกันยายน 2006[8][9]

ปลายปี 2007 บลูมเริ่มคบหากับนางแบบชาวออสเตรเลีย มิแรนดา เคอร์[10] พวกเขาประกาศการหมั้นในเดือนมิถุนายน 2010[11] และแต่งงานกันในเดือนต่อมา[12] วันที่ 6 มกราคม 2011 เคอร์ให้กำเนิดบุตรชายหนึ่งคนชื่อว่าฟลินน์ คริสโตเฟอร์ แบลงคาร์ด โคพแลนด์ บลูม ในลอสแอนเจลิส[13][14] วันที่ 25 ตุลาคม 2013 บลูมและเคอร์ประกาศว่าพวกเขาแยกทางกันหลายเดือนก่อนหน้านี้และตั้งใจจะยุติความสัมพันธ์ โดยทั้งคู่หย่าร้างกันภายในสิ้นปี 2013[15][16]

บลูมเริ่มคบหากับนักร้องชาวอเมริกัน เคที เพร์รี ในเดือนมกราคม 2016[17] อย่างไรก็ตาม ทั้งคู่ยืนยันในเดือนกุมภาพันธ์ 2017 ว่าพวกเขาแยกทางกัน พวกเขาเริ่มต้นความสัมพันธ์ใหม่อีกครั้งในเดือนกุมภาพันธ์ 2018[18][19][20] ทั้งคู่หมั้นหมายกันในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2019[21][22] ในวันที่ 5 มีนาคม 2020 มีการเปิดเผยผ่านมิวสิกวิดีโอเพลงของเพร์รี "Never Worn White" ว่าเธอกำลังตั้งครรภ์ลูกคนแรกของพวกเขาด้วยกันซึ่งเป็นผู้หญิง[23]

แหล่งที่มา

WikiPedia: ออร์แลนโด บลูม http://www.contactmusic.com/news.nsf/article/love%... http://elflady.com/legolasgreenleaf/print/05mar/im... http://www.exposay.com/orlando-bloom-and-kate-bosw... http://www.foxnews.com/entertainment/2018/04/29/ka... http://www.nangdee.com/name/?person_id=1608 http://www.nydailynews.com/entertainment/gossip/or... http://www.people.com/people/orlando_bloom/biograp... http://www.teenhollywood.com/d.asp?r=131159&c=1055 http://www.usmagazine.com/celebrity-news/news/mira... http://www.wildaboutmovies.com/interviews/WildAbou...